ทองพับเป็นขนมไทยเดิมที่มีมานานแล้ว นิยมรับประทานกันเพราะรสชาติกรอบอร่อยหวานมัน เก็บไว้รับประทานได้นาน ถ้าใส่โหลสะอาด ๆ ไว้สามารถเก็บได้เป็นเดือน สะดวกทั้งเป็นของฝากและของทานเล่นที่มีไว้ติดบ้าน ทองพับมีส่วนประกอบหลัก ๆ คือแป้ง ไข่ไก่ และมะพร้าว แต่ส่วนผสมแค่นี้มันธรรมดาไป เพราะวันนี้เราจะเพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้กับเจ้าขนมทองพับกัน

ทองพับสูตรที่จะนำเสนอนี้นอกจากแป้ง ไข่ไก่ และมะพร้าวแล้วเรายังใส่แคลเซียมเพิ่มลงไปอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งความอร่อยได้ทั้งประโยชน์กันเลยทีเดียว และแน่นอนของดีแบบนี้ทำขายยังไงก็ขายได้ และสามารถตั้งราคาขายได้สูงกว่าทองพับแบบธรรมดา และอาหารสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม ตลาดต้องการอาหารที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ การเพิ่มแคลเซียมลงในขนมจึงเป็นวิธีที่ฉลาดได้ทั้งมูลค่าเพิ่มและสร้างความน่าสนใจให้กับสินค้า ขนมทองพับแคลเซียมนี้จึงเป็นช่องทางทำเงินที่น่าจับตาอีกช่องทางหนึ่ง

เพิ่มมูลค่าขนมด้วยแคลเซียม

แคลเซียมเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างก่ายจำเป็นต้องใช้ แคลเซียมเป็นสารอาหารประเภทเกลือแร่ที่มีมากที่สุดในร่างกาย แคลเซียมในร่างกายร้อยละ 90 อยู่ที่กระดูกและฟัน ซึ่งแคลเซียมจะทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง แคลเซียมส่วนที่เหลืออยู่ในเนื้อเยื่อต่างๆ และของเหลวในร่างกาย ซึ่งมีความจำเป็นต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ การหดตัวของกล้ามเนื้อและกระตุ้น การส่งผ่านของระบบประสาท แคลเซียมที่ผสมในขนมทองพับนี้เป็นแคลเซียมแบบผงที่เรียกกันว่า “ไตรแคลเซียมฟอสเฟส” หาซื้อได้ทั่วไป

อุปกรณ์

1. ทองพับแคลเซียมไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์มาก สำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์ทำขนมอยู่แล้วก็แค่ซื้อพิมพ์ปิ้งทองพับไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 1 อย่างเท่านั้นเอง อุปกรณ์ทำขนมทองพับมีดังนี้
2. เครื่องพิมพ์ปิ้งทองพับไฟฟ้า
3. ที่ตีไข่
4. กระชอนร่อนแป้ง
5. ชามผสม
6. ถ้วยตวงและช้อนตวง
7. เกรียงแซะอาหาร
8. ส่วนผสมขนมทองพับ
9. แป้งสาลี 700 กรัม
10. น้ำตาลทราย 300 กรัม (ต้มเป็นน้ำเชื่อม 1 กิโลกรัม)
11. เกลือ 10 กรัม
12. กะทิ 500 กรัม
13. นมถั่วเหลืองต้มแบบไม่ใส่น้ำตาล 500 มิลลิลิตร
14. น้ำปูนใส 150 กรัม
15. ไข่ไก่ 6 ฟอง
16. งาดำคั่ว 50 กรัม
17. ไตรแคลเซียมฟอสเฟต 15 กรัม
18. น้ำสะอาด 720 มิลลิลิตร

รส ที่นิยมทำกันมีรสกล้วยหอม นำกล้วยหอมสุกงอมจำนวน 300 กรัมมาบดให้ละเอียด , รสฟักทอง ใช้ฟักทองต้มบดเละเอียด 300 กรัม , รสเผือก ใช้เผือกต้มบด 300 กรัม , ส่วนรสดั้งเดิมไม่ต้องผสมอะไรเพิ่ม

** ซึ่งการเพิ่มรสนี้ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับทองพับเหมือนกัน เพราะผลไม้และผักที่นำมาผสมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดีกว่ากลิ่นรสสังเคราะห์เราสามารถดึงข้อนี้มาเป็นจุดขายเพิ่มเติมได้

วิธีทำขนมทองพับ

1. แช่ปูนกินหมาก 1/2 กิโลกรัมกับน้ำสะอาด 4 เท่าของปูน คนให้เข้ากัน แล้วทิ้งไว้ให้ปูนตกตะกอนมีเพียงน้ำใส ๆ ลอยอยู่ด้านบน ตักส่วนน้ำใส ๆ ขึ้นมาเตรียมไว้
2. ร่อนแป้งสาลี 1 ครั้งด้วยตะแกรงร่อนแป้ง แล้วใส่ผงแคลเซียมลงไป ไม่ต้องร่อนอีก คนให้เข้ากัน
3. นำน้ำตาลไปเคี่ยวกับน้ำสะอาดจนละลายดี ให้ได้จำนวน 500 มิลลิลิตร เตรียมไว้
4. ผสมแป้ง กะทิ นมถั่วเหลือง น้ำปูนใส น้ำเชื่อม ให้เข้ากันโดยใช้ที่ตีไข่ เมื่อเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วใส่ไข่ไก่ แล้วจากนั้นใช้ที่ตีไข่ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วใส่เกลือ งาคั่ว และรสที่ต้องการลงไปแล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
5. ตั้งอุณหภูมิเครื่องพิมพ์ทองพับไฟฟ้าอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียส รอให้เครื่องร้อนสักครู่แล้วจึงหยอดเนื้อขนมลงไป ปิดพิมพ์เบา ๆ เพื่อไม่ให้เกิดฟองอากาศแล้วกดพิมพ์ให้แน่นเพื่อให้แผ่นทองพับแบน ปิ้งจนขนมมีสีเหลืองทองหอมฉุย แล้วจึงใช้เกรียงแซะขนมออกมาจากพิมพ์ ในระหว่างที่กำลังร้อนให้ใช้เกรียงพับขนมให้ทบกันไปมาเป็นสามเหลี่ยมดูน่ารับประทาน
6. ผึ่งขนมให้คายความร้อนให้หมดแล้วจึงใส่ลงในบรรจุภัณฑ์ ปิดฉลากรอจำหน่ายต่อไป

ต้นทุน/กำไร

ค่าวัตถุดิบทำขนมทองพับจะอยู่ที่ 70-80 บาท ตามสูตรข้างต้น ซึ่งจะทำขนมทองพับออกมาได้ประมาณ 240 ชิ้น ใส่ถุงขายประมาณถุงละ 17 ชิ้น ขายถุงละ 20 บาท ขายหมดจะได้เงิน 280 บาท เพราะฉะนั้นกำไรจะอยู่ประมาณ 200 บาท นับเป็นขนมที่มีกำไรสูงชนิดหนึ่ง ขายทีนึงได้กำไรถึง 2 เท่าตัว