อาชีพนี้ดูเหมือนจะไปไม่รอดและไม่น่าจะทำเงินได้เพราะมีผลการวิจัยขู่ไว้ว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกินปีละ 7 บรรทัด บร๊ะ อันนี้มันก็เกินไป เคยไปตลาดนัดหรือเปล่า แผงหนังสือเก่ามีคนรุมเต็มทุกครั้ง ทำไมมันช่างสวนทางกับผลการวิจัยนัก ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกค่ะ เพราะการวิจัยที่ว่านั้นเขาเก็บสถิติจากหนังสือที่คนไทยไม่นิยมอ่านกัน แล้วหนังสือชนิดไหนที่คนไทยนิยมอ่านล่ะ ถ้าจะตอบแบบง่าย ๆ มันก็คือหนังสือบรรเทิงหรือหนังสืออ่านเล่นนั่นเอง แผงขายหนังสือเก่าส่วนมากจะขายหนังสือมือสองตลาดพวกนี้ ขายยังไงก็ขายออกเพราะมีผู้นิยมอ่านมาก

ประเภทหนังสือมือสองที่ขายได้

1. หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ส่วนมากมักจะเป็นหนังสือแบบจบในเล่มแนวความรัก เช่น หนังสือการ์ตูนสำนักพิมพ์หมึกจีน นิวโปรเจ็คคอมมิค บงกช วิบูรณ์กิจ เนชั่น ฯลฯ อะไรก็ได้ขอแค่จบในเล่ม จะขายง่ายกว่าแบบชุด แบบชุดก็ขายได้แต่ต้องครบ ส่วนมากการ์ตูนที่เป็นชุดมักหลายเล่มจบส่วนมากจะ 20 เล่มขึ้นไป มักจะหาซื้อให้ครบยาก และราคาต่อชุดสูงอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าต้องการซื้อมาขายต้องดูความต้องการและความดังของเรื่องด้วย ยิ่งเรื่องดังและสำนักพิมพ์เลิกพิมพ์ขายไปนานแล้วราคายิ่งสูง เพราะเป็นของหายาก
2. นิตยสาร อาทิเช่น นิตยสารรวมภาพดารา นิตยสารประวัติดารา รวมผลงาน ต่วยตูนรายปักษ์ นิตยสารงานฝีมือ แต่งบ้าน จัดสวน นิตยสารเรื่องผี นิตยสารความรู้ทั่วไปเฉพาะกลุ่ม เช่น นิตยสารตกปลา รถยนต์ ฟุตบอล เป็นต้น ไม่ควรซื้อนิตยสารข่าวมาขาย เพราะมันขายไม่ได้ใครจะอยากอ่านข่าวเก่าล่ะจริงมั้ย
3. พ็อกเก็ตบุ๊คจำพวกทำนายดวง ความรัก กลอน คำคม เรื่องผี สูตรอาหาร วิธีประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ งานฝีมือ เรียนภาษา เป็นต้น ซึ่งพ็อกเก็ตบุ๊คเหล่านี้ควรมีความหนาไม่มากนัก สักประมาณ 150-250 หน้ากำลังดี เพราะคนไทยไม่ชอบอ่านอะไรหนา ๆ
4. หนังสือการ์ตูนขำขัน จำพวก ขายหัวเราะ มหาสนุก หนูหิ่นฯ ปังปอร์น เป็นต้น ซึ่งจะขายดีมาก แต่สำหรับหนังสือมือสองเครือนี้เล่มอื่น ๆ อย่าง เบบี้ หนูจ๋า ไม่ควรซื้อมาขาย เพราะกลุ่มผู้อ่านค่อนข้างจะจำกัด
5. นิยาย เน้นนิยายขายฝัน ความรักโรแมนติก หรือเรื่องเบาสมอง เช่น นิยายจากสำนักพิมพ์แจ่มใส คัมออน แพตตี้ เป็นต้น

แหล่งซื้อหนังสือมือสองมาขาย

1. ร้านเช่าหนังสือมือสองที่ปิดกิจการ หนังสือจากร้านเช่าถือว่าเป็นหนังสือคุณภาพดี ถึงตามสภาพแล้วจะผ่านมือมามากก็ตาม ที่บอกว่าเป็นหนังสือคุณภาพดีก็เพราะหนังสือจากร้านเช่ามีการห่อปกและเย็บสัน ทำให้หนังสืออยู่ในสภาพดี ตอนนำมาขายก็แกะพลาสติกห่อปกออก หนังสือก็เหมือนใหม่แล้ว
2. รับซื้อตามบ้าน อันนี้ต้องอาศัยช่องทางประกาศในอินเทอร์เน็ต ว่าต้องการรับซื้อหนังสือถึงบ้าน ระบุพื้นที่ให้ชัดเจน หนังสือบ้านมีหลายสภาพ แล้วแต่เจ้าของจะถนอมขนาดไหน
3. รับซื้อตอนตั้งแผงขาย กรณีนี้ลูกค้าจะนำหนังสือมือสองมาขายเองถึงที่แผง ส่วนมากก็หนังสือเรานั่นแหล่ะ เขาซื้อไปอ่านแล้วบางทีไม่ชอบใจหรือไม่อยากเก็บเขาก็เอามาขายคืน

ต้นทุนและกำไร

ส่วนมากต้นทุนในการซื้อหนังสือมือสองมาขายจะอยู่ประมาณ 20-30% จากราคาปก แล้วแต่สภาพและความหายากของหนังสือ เวลาตั้งราคาขายก็จะตั้งตามสภาพหนังสือ ส่วนมากจะอยู่ประมาณ 60-70 จากราคาปก แต่ในกรณีที่เป็นหนังสือหายาก ไม่มีพิมพ์จำหน่ายแล้วคุณสามารถตั้งราคาได้สูงถึง 2-5 เท่าของราคาปก ส่วนต้นทุนแล้วแต่ความสามารถในการค้นหา หนังสือมือสองราคาที่ตั้งมันแล้วแต่ความต้องการ หายากมาก สภาพดีมากก็ราคาสูง เป็นตลาดที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ยิ่งต้องการมากก็ยิ่งแพงมาก

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

1. เวลารับหนังสือมือสองมาขายต้องระวังหน้าขาด วิธีเช็คง่าย ๆ คือให้พลิกดูบริเวณสันหนังสือ ดูกระดาษถ้ามันขาดหายไปมันจะมีช่องว่างให้สังเกตเห็น
2. เวลาหาหนังสือมาขายควรศึกษาความต้องการตลาดหนังสือมือสองด้วย จะได้กำหนดราคาถูก เคยมีคนขายชุดหนังสือหายากด้วยราคาสุดถูกมาแล้ว มารู้เอาทีหลังว่าสามารถตั้งราคาได้สูงถึงหลายเท่าตัวก็สายไปแล้ว
3. มีธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจคือ บริการหาหนังสือหายาก ซึ่งถ้าคุณขายหนังสือมือสองอยู่แล้วถือว่ามีต้นทุนดี ให้เปิดเว็บไซต์ให้บริการด้านนี้เสริมด้วย วันดีคืนดีคุณอาจจะเจอชุดหนังสือหายากหมกอยู่ในบ้านหลังใดหลังหนึ่งของคนที่คุณไปรับซื้อหนังสือก็เป็นได้ บริการนี้นอกจากจะสามารถตั้งราคาขายหนังสือได้แพงแล้วยังสามารถเรียกค่าบริการเพิ่มได้ด้วย